ปิตาธิปไตยในบ้านตุ๊กตากระดาษ
1.
ในบ้านตุ๊กตากระดาษ
ราวกับทุกคนกำลังแสดงละครอยู่ในทุกๆท่วงท่า
พ่อตุ๊กตากระดาษเด็กน้อย มีดวงตาเกือบมืดบอด เขานั้นขี้ขลาดยิ่งกว่าใครๆ
จะสั่งการใคร พ่อตุ๊กตากระดาษเด็กน้อยจะต้องพูดผ่านแม่ตุ๊กตากระดาษ
ไม่รู้ว่า เขาทำเพื่อคงสัญลักษณ์ของความเป็นพ่อที่ยิ่งใหญ่เหนือสิ่งทุกในบ้าน
เป็น ‘ราชาในบ้าน’ แบบที่เขาพูด
หรือ เขาทำเพราะเขาไม่กล้าที่จะเผชิญหน้ากับดวงตาอื่นที่ดูถูกเหยียดหยามสัญลักษณ์จอมปลอมที่เขาถือครอง
2.
ในบ้านตุ๊กตากระดาษ
ราวกับทุกคนกำลังแสดงละครอยู่ในทุกๆท่วงท่า
แม่ตุ๊กตากระดาษเฝ้าด่าทอลูกสาวที่พยายามมีตัวตนนอกเหนือบทบาท
เฝ้ากดหัว ตอกย้ำถึงความย่ำแย่ของเธอในทุกเสี้ยววินาทีที่เธอเพียงจะอ้าปากพูดแสดงความรู้สึก
แม่ตุ๊กตากระดาษไร้หูไม่มีความสามารถในการรับฟัง แต่ร่างกายมีกลไกที่ไวต่อความรู้สึกถูกรุกราน และได้ยินเพียงเสียงของพ่อตุ๊กตากระดาษเด็กน้อยเท่านั้น
แม่ตุ๊กตากระดาษไร้หูเป็นทหารไร้หูชั้นสูงของพ่อตุ๊กตากระดาษเด็กน้อย ที่คอยปกป้องทุกๆหอกหนามที่จะมาทิ่มแทงเด็กน้อยของเธอ
เด็กน้อยตาบอดในบทพ่อ ที่เพียงยืนเงียบๆ ก็ได้รับอำนาจเหนือกว่าใครๆ เป็นคนที่ถูกทำร้ายและถูกต้องเสมอ
ไม่รู้ว่า แม่ตุ๊กตากระดาษไร้หูกำลังปกป้องพ่อตุ๊กตากระดาษเด็กน้อย
หรือ กำลังปกป้องบทบาทของตัวเองถือครองอยู่เช่นกัน บทบาทง่ายดายที่ทำให้ไม่ต้องใช้ความกล้าใดๆ เพื่อเผชิญหน้ากับความเป็นตัวตนของตัวเองที่แท้ นอกเหนือความเป็นผู้หญิงของตัวเอง
3.
ในบ้านตุ๊กตากระดาษ
ราวกับ เ ธ อ กำลังแสดงละครอยู่ในทุกๆท่วงท่า
ในบ้านหลังนี้
มีเพียง เ ธ อ ที่กรีดร้อง
มีเพียงเธอที่มองเห็นเส้นใยที่ชักจูงแขนขา และร่างกายของพวกเขาทุกคน
แล้วเธอที่รับบท ลู ก ส า ว ที่อยู่วรรณะต่ำสุดของบ้านตุ๊กตาหลังนี้จะไปเหลือตัวตนอะไร
เธอจะไปมีหน้าอะไรที่จะเผชิญหน้าตรงๆกับความรู้สึกของตัวเอง แล้วพูดได้เต็มปากว่ามันจริงแท้
ในบ้านตุ๊กตากระดาษ ที่ น้ำตา ของเธอมันเป็นของปลอม
ในบ้านตุ๊กตากระดาษ ที่ ความรู้สึก ของเธอมันเป็นของปลอม
4.
ในบ้านตุ๊กตากระดาษ
ที่ราวกับทุกคนกำลังแสดงละครอยู่ในทุกๆท่วงท่า
‘พวกเขากำลังแสดงไปเพื่ออะไรกัน?’
‘พวกเขากำลังปกป้องอะไรกันอยู่?’
เธอไม่รู้
ที่เธอรู้ตอนนี้คือ เธอกลัว
กลัวเหลือเกิน ที่เธอจะกลายเป็นตุ๊กตากระดาษไปจริงๆ
กลัวเหลือเกิน ที่ดวงตาของเธอจะกลายเป็นดวงตาที่ไม่กล้าแม้แต่จะจ้องมองตัวเอง
เหมือนกับดวงตาอันขี้ขลาดของพ่อตุ๊กตากระดาษเด็กน้อย
5.
นอกบ้านตุ๊กตากระดาษ
เธอพบแสงไฟอ่อนในร่างกายของเธอ
เธอรู้ดี
บางแห่ง นอกบ้านตุ๊กตาหลังนี้
ความกลัว นี้แสนจริงแท้…
ดวงไฟอื่นหลายดวงที่พบเจอ
ทำให้เธอเริ่มรับรู้ถึงความกลัวของเธอได้อย่างแจ่มชัด
เธอกลัวเหมือนๆกันกับดวงไฟเหล่านั้น
เรากลัวกันเหลือเกินในการมองเห็นและรับรู้ถึงเนื้อหนังมังสาร่างกายอันเปราะของตัวเองและยอมรับว่าทุกอนุของมันนั้น เปราะบางและอ่อนแอที่สุดแล้ว
อ่อนแอยิ่งกว่าเปลือกแข็งแห่งมายาที่ห่อหุ้ม
อ่อนแอยิ่งกว่าเส้นใยสังเคราะห์ของตุ๊กตากระดาษที่แม้ถูกฉีดจนเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยก็ไม่มีความรู้สึกใดๆ
แต่ความอ่อนแอเหล่านี้ต่างหาก ที่แข็งแรงที่สุดแล้ว
ฉนวญความร้อนในเนื้อหนังมังสาของมนุษย์ แหล่งกำเนิดของไฟ
พลังมหัสจรรย์ของธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นใหม่เองได้ซ้ำๆ
ไฟดวงน้อยที่กำลังหลอมรวมเป็นไฟใหญ่
จะแผดเผาบ้านตุ๊กตากระดาษจนมอดไหม้
6.
แด่ความอ่อนแอแปล้เปลี้ยของปิตาธิปไตยตุ๊กตากระดาษ
และความแข็งแกร่งของจิตวิญญาณมนุษย์
— — — — — — — — -
ในบ้านตุ๊กตากระดาษ เธอพบว่า ครอบครัวตุ๊กตากระดาษเป็นเพียงร่างทรงของการถ่ายทอดภูติผีแห่งอำนาจกดทับ
โคตรเหง้าเป็นใหญ่ อำนาจเป็นใหญ่ ชายเป็นใหญ่ พ่อแม่ใหญ่ บทบาทหน้าที่ ประเพณีวัฒนธรรมเป็นใหญ่เหนือมนุษย์
และ ‘มนุษย์’ ก็วางตัวเป็นใหญ่เหนือสรรพสิ่ง แม้กระทั่งจิตวิญญาณที่เชื่อมโยงกับธรรมชาติของตัวเอง
แต่สิ่งสมมุติไร้สสาร จะไปสู้อะไรได้กับความจริงแท้ของเนื้อหนังมังสาความเป็นคน